แบล็คแจ็ค เกม 21 แต้มวัดความกล้า ท้าดวง จะอยู่หรือจะจั่ว ตัดสินใจเลย
แบล็คแจ็ค
ยังคงอยู่กับ เกมไพ่ กันต่อครับเพราะมี เกมคาสิโน ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ซึ่งครั้งนี้ทีมงาน WamaGame ได้หยิบเกม Blackjack มานำเสนอ ก็ไปดูกันครับว่าเกมนี้จะเล่นยากง่ายขนาดไหน แต่ก่อนอื่นไปดูรายละเอียดของเกมคร่าวๆ กัน
รายละเอียดเกมแบล็คแจ็ค
ตัวเกมนั้นเป็นเกมของการรวมไพ่ในมือ ซึ่งเป้าหมายหลักของผู้เล่นจะต้องทำการรวมให้ได้แต้มสูงที่สุด แต่ทั้งนี้จะต้องไม่เกิน 21 แต้ม เพราะถ้าเกิน 21 แต้มเมื่อไหร่ จะกลายเป็นไพ่เน่าทันที ฉะนั้นงานนี้ขึ้นอยู่กับการวัดดวงและความใจแข็งล้วนๆ พอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมครับ ถ้างั้นเราไปดูขั้นตอนวิธีเล่นของเกมนี้กันต่อได้เลยครับ
วิธีเล่นแบล็คแจ็ค
1. การแจกไพ่
เจ้ามือจะเริ่มทำการแจกไพ่ให้ผู้เล่นก่อน แล้ววนไปจ่ายให้เจ้ามืออีกที ซึ่งไพ่เจ้ามือจะปิดเอาไว้ และเปิดเอาไว้จำนวน 1 ใบครับ ผู้เล่นจะได้ประเมินคร่าวๆ ว่าแต้มน่าจะมากน้อยขนาดไหนกัน เพื่อจะได้พิจารณาว่าเราจะทำการขอไพ่เพิ่มหรือไม่
2. การขอไพ่
จากกติกาที่เราทราบกันไปแล้วว่าจะต้องรวมไพ่ให้ได้ 21 แต้มสูงสุด แต่จะหยุดก่อนก็ได้ นั่นหมายความว่าผู้เล่นจะสามารถขอไพ่เพิ่มได้ตลอด ทั้งนี้เราจำเป็นต้องรู้ว่าไพ่แต่ละใบมีแต้มเท่าไหร่
ซึ่งไพ่ที่เป็นเลขให้ยึดตามค่าตัวเลข แต่ไพ่ A จะไม่ใช่หนึ่ง แต่เป็น 11 และไพ่ J K Q จะเท่ากับ 10 ครับ
เช่น J + A ก็จะได้ 21 แต้มครบถ้วนเรียบร้อย แต่ถ้า 1 + J + A ก็จะถือว่าไพ่เน่าทันที เพราะได้ 22 แต้ม
ส่วนการจั่วไพ่ของเจ้ามือนั้น เจ้ามือจะต้องมีแต้มไม่น้อยกว่า 17 แต้ม หากน้อยกว่า 17 แต้ม เจ้ามือจะต้องทำการจั่วไพ่เพิ่มครับ ในขณะที่ของผู้เล่นจะไม่มีข้อบังคับตรงนี้
3. การทำประกัน (Insurance)
หากไพ่ของเจ้ามือหงายขึ้นมาเป็น A หรือ J , Q , K มีโอกาส Blackjack ผู้เล่นสามารถเลือกทำประกันได้ ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียยอดทั้งหมด โดยจะจ่ายเพียงครึ่งเดียว แต่ก็ต้องเพิ่มเงินเพื่อทำประกันด้วย
4. การแยกไพ่ (Split)
หากผู้เล่นได้ไพ่สองใบเหมือนกัน สามารถขอแยกไพ่ออกเป็นไพ่สองกองได้
5. ดับเบิ้ลดาวน์ (Double Down)
เป็นการขอลงเงินเดิมพันเพิ่มอีกหนึ่งเท่า ซึ่งหากเราเลือกแบบนี้ จะขอไพ่เพิ่มได้อีกแค่ใบเดียว
6. เซอร์เรนเดอร์ (Surrender)
คือการขอยอมแพ้ไม่เล่นต่อ ซึ่งจะเสียเงินเดิมพันเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น